ค้นหาบล็อกนี้

วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2554

How to อ่านใจคนอย่างแม่นยำ (Cold Reading)

เทคนิคการอ่านใจนี้เรียกว่า “Cold Reading” เป็นเทคนิคดั้งเดิม ซึ่งใช้โดยนักมายากล หมอดู นักแสดง หรือแม้กระทั่งนักต้มตุ๋น โดยการถามคำถามตามจริง จากนั้นก็ตั้งใจฟังและลองเดาคำตอบซัก 1 หรือ 2 คำตอบ บางคนอาจจะหลงเชื่อก็เป็นได้ว่าคุณมีสัมผัสที่หก สามารถติดต่อกับโลกวิญญาณได้
ลองไปดูขั้นตอนของ Cold Reading กันเลยครับ….

เตป

1) เลือกคนที่เราจะต้องการจะอ่านใจ (Cold Reading )

- บางครั้งนักอ่านใจ (Cold Reader) จะเลือกคนที่จะอ่านใจไว้ล่วงหน้าขึ้นอยู่กับข้อมูลที่พวกเขามีอยู่เกี่ยวกับคนที่จะถูกอ่านใจโดยที่คนถูกอ่านใจไม่รู้ว่าพวกเขารู้ การเลือกคนที่จะถูกอ่านใจล่วงหน้าเท่าที่เป็นไปได้ ยิ่งคุณมีเวลาเรียนรู้คนที่คุณเลือกก่อนเท่าไหร่ยิ่งดีมากเท่านั้น นักอ่านใจ (Cold Reader) บางคนจะมีคนสมรู้ร่วมคิดมาพบก่อนหรือมีการสัมภาษณ์คนที่ถูกเลือกก่อนทำการอ่านใจ (Cold reading) เพื่อที่พวกเขาจะเอาข้อมูลที่ได้ทำให้คนที่ถูกเลือกและผู้ชมเกิดความพิศวงได้

- การถามหาอาสาสมัครก้อเป็นอีกวิธีที่ดีในการเลือกคน เพราะอาสามสมัครมีแนวโน้มที่จะโต้ตอบกับคุณและที่สำคัญต้องการเชื่อว่าคุณสามารถติดต่อกับคนตายหรือคุณสามารถเห็นบางสิ่งเกี่ยวกับตัวเขาซึ่งไม่น่ามีวิธีไหนที่คุณสามารถล่วงรู้ได้ ระวังคนที่สงสัยด้วย

- อีกเทคนิคหนึ่งก็คือพูดเรื่องทั่วไปขึ้นมาสักเรื่องหรือมากกว่านั้น เช่น “ผมสัมผัสได้ว่ามีคนที่มีปัญหาเกี่ยวกะการแต่งงานเมื่อไม่นานมานี้” หรือ “มีบางคน ฉันคิดว่าชื่อบิลลี่ต้องการติดต่อกะหลานสาว” เมื่อพูดเรื่องพวกนี้ออกไป ให้ดูปฏิกิริยาโต้ตอบของผู้ชม โดยส่วนใหญ่จะมีคนที่เพิ่งมีปัญหาเกี่ยวกับการแต่งงานหรือคนที่มีตาหรือปู่รู้จักกันในนามบิลลี่ แน่นอนว่าคุณยังไม่รู้ว่าใคร แต่ปฏิกิริยาของผู้คนโดยเฉพาะภาษากายนั้นจะเผยพวกเขาออกมา คุณสามารถลองทำให้ข้อมูลของคุณนั้นดีขึ้นโดยการระบุให้ชี้เฉพาะเช่น บิลลี่คนนี้มีชีวิตที่ยืนยาว ชอบการตกปลา ไม่ล่าสัตว์ บางทีก็ชอบอยู่กลางแจ้ง ให้คุณเพ่งความสนใจไปที่คนที่แสดงปฏิกิริยาโต้ตอบคุณตั้งแต่ตอนที่คุณประกาศข้อมูลอย่างกว้างๆตั้งแต่ตอนแรก จากนั้นดูอาการโต้ตอบต่อไป ถ้าคุณเริ่มค่อนข้างชัวร์ว่าข้อมูลของคุณตรงกับใครคนใดแล้วเรียกเขา ถ้าเขายังไม่มาถึงตัวคุณให้กระโดดแล้วร้อง”it’s me!” การใช้เทคนิคนี้ทำให้คุณได้รับความมั่นใจของคนที่ถูกเลือกและทำให้ผู้ชมประหลาดใจก่อนการอ่านใจเริ่มขึ้น

2.) สังเกตคนที่ถูกเลือกให้ดี
แม้ว่าคุณจะมีเวลาเพียงเล็กน้อยในการทำความรู้จักกับคนที่ถูกเลือก คุณสามารถเรียนรู้ได้มากมายจากการรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับคนที่ถูกเลือก

- มองเบาะแสที่สามารถมองเห็นได้ที่สามารถบอกอะไรกับคุณเกี่ยวกะคนที่ถูกเลือกได้ อายุ สไตล์การแต่งตัว หรือ เขามีจุดบกพร่องอะไรตรงไหน ส่วนสูง น้ำหนัก เห็นแหวนแต่งงานหรือไม่ มันมีเบาะแสหลากหลายที่จะทำให้คุณเรียนรู้คนที่ถูกเลือกได้ในทันที

- อ่านภาษากายของเขา ก่อนและตลอดทั้งการอ่านใจ (Cold Reading) ดูภาษากายของเขาอย่างระมัดระวัง ท่าทางนอกเหนือการควบคุมภายใต้อำนาจจิตใจ การแสดงสีหน้า การเปลี่ยนแปลงท่าทาง สามารถบอกคุณได้ว่าเขารู้สึกวิตกกังวลมั้ย ซึ่งมักจะเป็นสัญญาณที่ดีที่บ่งบอกว่าคุณได้พูดเกี่ยวกับเขาถูกต้องหรือสิ่งที่คุณกำลังจะทำต่อไป ท่าทางผิดหวังบ่งบอกกว่าคุณได้พูดบางอย่างผิดไป ซึ่งถ้าคุณทำให้มันถูกต้องอย่างลับๆและรวดเร็ว คนที่ถูกเลือกและผู้ชมจะพิศวงในสิ่งที่ถูกต้องนั้น เรียนรู้ให้ได้มากที่สุดเกี่ยวกับภาษากาย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องมีสมาธิ

3.) ตั้งสมมติฐานทุกสิ่งที่ผุดขึ้นในใจเกี่ยวกับเขาคนนั้น
ขณะที่คุณสังเกตเขา คิดถึงสิ่งแน่นอนต่างๆที่คุณสามารถเดาอย่างมีเหตุผลเกี่ยวกับตัวเขาได้ คุณไม่ต้องเดามากมายแต่มันประมาณว่าช่วยสร้างบุคลิกลักษณะขึ้นมาในใจคุณ สมมติฐานบางอันอาจจะผิด แต่คุณจะต้องหลักเลี่ยงปัญหาเล็กน้อยเหล่านี้

4.) เตรียมคนที่ถูกเลือก
เมื่อคุณพบกับเขา มองตาเขาแล้วบอกเขาว่าคุณสามารถติดต่อกับโลกวิญญาณได้ แนะนำตัวเองและถามชื่อเขา พยายามทำให้เขารู้สึกสบายเวลาคุยกับคุณและในเวลาเดียวกันทำให้เขากระวนกระวายเล็กน้อยกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น อธิบายว่าบุคคลที่อยู่อีกด้านหนึ่งต้องการติดต่อกับเขา ซึ่งคุณเป็นตัวกลางติดต่อแต่ต้องการความช่วยเหลือจากคนที่ถูกเลือก สิ่งนี้ทำให้มันดูสมจริงมากขึ้น เตรียมคนที่ถูกเลือกสำหรับความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นและขอความร่วมมือจากเขา ถ่อมตัวกับความสามารถของคุณให้มากที่สุดแต่แสดงความมั่นใจที่สงบเสงี่ยม

5.) โยนหินถามทาง
ถ้าคุณเป็นมืออาชีพคุณอาจศึกษาข้อมูลทางสถิติของประชากร คุณอาจถูกฝึกการอ่านภาษากาย คุณอาจแม้แต่มีผู้ช่วยของคุณ อย่างไรก็ตาม คุณยังแทบไม่รู้ข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับคนที่นั่งตรงหน้าคุณ ถ้าคุณเพิ่งเริ่มเดา คุณมักจะผิดโดยส่วนใหญ่ แต่ถ้าคุณถามคำถาม คุณจะได้คำตอบที่ถูกต้องจากเขาเอง ตัวอย่าง คุณควรขยายความสิ่งที่คุณเรียนรู้จากการโยนหินถามทางโดยถามว่า ตอนนี้บิลลี่เป็นปู่หรือตาของเธอใช่มั้ย การถามคำถามแบบนั้นเป็นเหมือนการประกาศข้อมูลออกไป ถ้าคนที่ถูกเลือกยืนยันข้อมูล มันก็เหมือนว่าคุณรู้คำตอบแต่ถ้ามันไม่ใช่มันก็เป็นแค่การถามคำถาม

6.) ก่อร่างสร้างคำตอบเพิ่มขึ้น
โดยส่วนใหญ่ของเวลาที่ทำการอ่านใจ (Cold reading) คนที่ถูกเลือกจะให้ข้อมูลมากเกินความจำเป็น เขาอาจพูดบางอย่าง เช่น ไม่ใช่ บิลลี่เป็นลุงของฉัน เขาอาศัยในฟาร์ม ตอนนี้คุณรู้บางสิ่งเกี่ยวกับเขาซึ่งมากกว่าที่คุณสามารถพูดได้เมื่อก่อนหน้านี้ จากการใช้ข้อมูลเหล่านี้คุณสามารถสร้างความประทับใจด้วยการถามคำถามแสดงถึงว่าคุณรู้บางอย่างเกี่ยวกับเขาจริงๆ ซึ่งการทำเช่นนี้ต้องการการคิดที่รวดเร็วอย่างเห็นได้ชัด แต่ถ้าคุณเป็นผู้ฟังที่ดีซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของcold readers คุณจะสามารถเพิ่มความเร็วของคุณได้อย่างรวดเร็ว

7.) ใช้ Barnum statements (ถูกตั้งชื่อตามนักแสดงโรงละครสัตว์ P.T. Barnum)
เป็นการประกาศที่ประยุกต์เข้ากับใครก็ได้เพื่อสร้างความประทับใจว่าคุณรู้บางสิ่งเกี่ยวกับคนที่ถูกเลือก การใช้ Barnum statements เหมือนการโยนหินถามทาง ยกเว้นคุณเพิ่งทำข้อตกลงกับบุคคลหนึ่ง ตัวอย่าง คุณสามารถพูดว่าคุณมีแนวโน้มที่จะตัดสินสิ่งยิ่งใหญ่ในชีวิตคุณ คนส่วนใหญ่เมื่อเวลาใดก็ตามกำลังเผชิญกับการตัดสินใจใหญ่หรือดูเหมือนว่าใหญ่ คนที่ถูกเลือกจะมีแนวโน้มประทับใจว่าคุณรู้บางอย่างเกี่ยวกับเขาและเขาก็อาจจะให้ข้อมูลเพิ่ม

8.) สร้างคำตอบของคนที่ถูกเลือกด้วยตัวคุณเอง
สิ่งที่นักอ่านใจ (Cold Reader) ทำบ่อยครั้งมากคือการแค่ย้ำสิ่งที่คนที่ถูกเลือกได้พูดไป การทำแบบนี้ทำให้เหมือนว่าคุณรู้คำตอบแล้ว ถ้าคุณจัดการทำวิธีนี้อย่างชาญฉลาด คนที่ถูกเลือกมีแนวโน้มที่จะลืมข้อมูลเขาได้ให้คุณไปก่อนหน้านี้ สมมติว่าคนที่ถูกเลือกยืนยันว่าเขามีแนวโน้มของการตัดสินใจครั้งใหญ่ คุณแค่พูดว่า ใช่ มันถูกต้อง ดังนั้นยืนยันคำตอบของเขาด้วยตัวคุณเอง คุณสามารถไปต่อได้อีก โดยพูดว่า ใช่ ถูกต้อง มันสร้างปัญหาให้คุณมาสักระยะจนถึงบัดนี้ ยิ่งข้อมูลที่คนที่ถูกเลือกให้เพิ่มมาเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งมีข้อมูลที่ให้ยืนยันได้มากเท่านั้น

9.) ล้วงข้อมูลให้ลึกขึ้น
ถ้าหากคุณมีแนวทางในการตั้งคำถามได้อย่างมากมายแล้ว ให้ดำเนินการต่อไปดังนั้นคนที่ถูกเลือกกำลังตัดสินใจ คุณสามารถตามติดต่อไปด้วย Barnum statement อื่นๆ เช่น การตัดสินใจนี้เกี่ยวข้องกับคนอื่นด้วย การตัดสินใจส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับบุคลลอื่นอย่างน้อยหนึ่งคนในบางขอบเขตหรือมากกว่านั้น ถ้าคุณเป็นคนช่างสังเกตและฉลาด คุณอาจจะสังเกตแหวนแต่งงานของเขาแล้วพูดว่า แต่การตัดสินใจนี้ต้องทำร่วมกับสามีของคุณ ถ้าคุณถูกเพราะคำกล่าวนั้นค่อนข้างชัดเจน หรือจากท่าทางที่สังเกตได้ที่บ่งบอกว่าคุณนั้นมีโอกาสถูก คุณก็จะยิ่งได้รับความประทับใจ

10.) ใช้การหยุดอย่างมีนัยสำคัญ
หนึ่งวิธีของการควานหาคำตอบคือการเว้นช่วงหยุดที่นานพอที่จะเห็นปฏิกิริยาโต้ตอบของคนที่ถูกเลือก เช่น ถ้าคุณพูดว่าการตัดสินใจต้องทำร่วมกับสามี คุณสามารถรอสักครู่เพื่อดูว่าเขามีอะไรจะพูดเกี่ยวกับมันหรือไม่ เขาหรือเธออาจบอกทันทีว่าคุณถูกหรือผิด หรือเขาอาจคาดหวังให้คุณบอกพวกเขามากขึ้น ในกรณีหลัง ให้ดูปฏิกิริยาทางกายภาพ ถ้าคุณเห็นปฏิกิริยาที่บอกว่าคุณมาถูกทาง พูดเสริมเข้าไป เช่น เขาเป็นกังวลกับการตัดสินใจ

11.) ปิดบังข้อผิดพลาด
หลังจากที่คุณถามคำถามและทวนข้อมูลในหลายๆทางๆ คุณไม่ควรทำข้อผิดพลาดถ้าคุณกำลังเดาบางสิ่งบางอย่าง บางครั้งคำถามจะเปิดเผยตัวมันเองและสิ่งนี้อาจทำลายภาพที่สร้างขึ้นมาถ้าคุณไม่รีบนำกลับคืนอย่างรวดเร็วและนุ่มนวล สมมติ เช่น คนที่ถูกเลือกพูดว่าเขาไม่ได้มีแนวโน้มที่จะตัดสินใจสิ่งใหญ่ มันมีหลายวิธีที่จะจัดการปัญหานี้ วิธีหนึ่ง พูดว่า โถ ลุงบิลที่น่าสงสาร(ถ้าคุณกำลังติดต่อกับโลกวิญญาณ)ต้องกำลังคุยถึงคนอื่นที่คุณทั้งสองต่างก็รู้ว่าเป็นใคร บางทีอาจเป็นญาติ วิธีอื่น คือการเปลี่ยนกรอบของเวลา ถามว่า แต่คุณได้ตัดสินใจสิ่งใหญ่เมื่อปีที่แล้ว บางสิ่งของการเริ่มต้นใหม่ วิธีอื่นคือการเปลี่ยนกรอบคำถามอย่างเป็นนัย เช่น ฉันสัมผัสได้ถึงสิ่งใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในชีวิตของคุณ คุรอยาละทิ้งขอบเขตเริ่มต้นของการถามคำถาม แต่ให้ปรับเปลี่ยนมันเล็กน้อยจนกว่ามันจะฟังดูมีเหตุผลสำหรับคนที่ถูกเลือก หลังจากนั้น หาก คนที่ถูกเลือกได้ยืนยันว่ามีสิ่งใหม่กำลังเกิดขึ้นในชีวิตของเขา เขาจะต้องรู้สึกงี่เง่าเล็กน้อยที่จำไม่ได้ว่าคุณพยายามสื่อข้อความทางจิตให้เขาได้รู้เกี่ยวกับการตัดสินใจ

12.) วิเคาะห์สถานการณ์เชิงบวก
เมื่อคุณได้ช่วยให้คนที่ถูกเลือกได้พูดเปิดอกและคุณมีความเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่พูดคุย(หรืออย่างน้อยคนที่ถูกเลือกเชื่อว่าคุณรู้ถึงสิ่งที่คุณกำลังพูดอยู่) คุณสามารถทำให้การreadingของคุณจบอย่างน่าพอใจด้วยการถ่ายทอดข้อความจากเพื่อนหรือญาติที่ตาย หรือแค่การให้คำทำนายจากความสามารถในการมองเห็นอนาคตของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องถูกต้องแม่นยำ และคุณไม่จำเป็นต้องให้คำแนะนำ แค่บอกคนที่ถูกเลือกถึงสิ่งที่เขาอยากฟัง เท่านั้นทุกอย่างก็จะเป็นไปด้วยดี คุณสามารถพูด เช่น บิลลี่ต้องการให้คุณรู้ว่าเขาคอยเฝ้ามองคุณอยู่เสมอ เขาคิดถึงคุณ เขามีความสุข และเขาต้องการให้คุณมีความสุขด้วย และคุณก็จะมี คุณกำลังจะตัดสินใจสิ่งที่ถูกต้องแล้ว คุณอาจจะต้องการเตือนเขาถึงสิ่งท้าทายที่รออยู่ข้างหน้าเพื่อเพิ่มความสมจริงแก่การอ่านใจ(Cold Reading) ของคุณ แต่เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกพูดและทำไปแล้ว คุณแค่ต้องการให้เขามีความสุข

Tips

- ให้การเผชิญหน้าสั้นๆและลี้ลับ น่าพิศวง ถ้ากำลังจะต้องเผชิญหน้ากับเขาอีก ให้พัฒนาประเด็นอื่นที่เกี่ยวกับการทำนายอนาคตและการการบอกเป็นนัยเพื่อโต้ตอบ

- อุปกรณ์เช่น กองไพ่ทาร็อตหรือใบชา ช่วยเพิ่มความสมบทบาท และเบี่ยงเบนความสนใจบางส่วนไปจากระบวนการอ่านใจ (Cold Reading) อุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยให้คนที่ถูกเลือกละทิ้งความไม่เชื่อ

- คุณจะทำให้เขาเชื่อมั่นได้นานเท่าที่คุณทำให้มันดูเหมือนว่าคุณรู้มากกว่าคุณรู้จริงๆ จำไว้ว่าคนที่ถูกเลือกต้องการเชื่อในพลังของคุณและคุณต้องสนับสนุนความเชื่อนั้น หลังจากนั้นเขาจะให้ข้อมูลมากกว่าที่คุณแสดงออกไป

- ฝึกซ้อมการแสดงของคุณ เรียนรู้ศัพท์เฉพาะ เรียนรู้การเป็นนักแสดงชวนเชื่อ เตรียมอารมณ์

- ลูกจ้างที่มีป้ายแขวนมักจะลืมว่าพวกเขามีมันอยู่ พื้นฐานของการอ่านใจคือการเดาชื่อบุคคล โดยส่วนใหญ่ คนที่เป็นแม่จะเป็นผู้ตั้งชื่อลูกคนแรก คุณสามารถกล่าวถึงจุดนี้ มันจะทำให้พวกเขาเชื่อมากขึ้นเกี่ยวกับพลังพิเศษของคุณ

- Rainbow ruse นั้นคล้ายคลึงกับ Barnum statement ใน rainbow ruse คุณประกาศข้อมูลเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของคนที่ถูกเลือกแต่คุณสามารถลดความเสี่ยงในการทายโดยการให้ข้อมูลที่ตรงข้ามกับภาพลักษณ์ของพวกเขา(และเชิญให้เขาพูดเปิดใจ) ตัวอย่างเช่น คุณอาจพูดว่า คุณชอบตัดสินใจอย่างระมัดระวังและอดทน แต่บางทีก็หุนหันพลันแล่น

Warnings

“ระมัดระวังคนที่คุณเลือกใช้เทคนิคนี้ให้มาก มีคนไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามที่โต้ตอบไม่ดีนักเมื่อคุณเปิดเผยว่ามันคือทริค(และคุณต้องเปิดเผยเสมอว่ามันคือทริค อย่าทำให้คนเชื่อว่าการ Cold Reading คือของจริง) ถ้าคุณเลือกจุดที่ผิด เขาอาจจะโกรธหรือกระทบกระเทือนใจ เตรียมตัวสำหรับการสูญเสียเพื่อนและเคารพโดยการลองกับบุคคลที่ไม่ใช่ การทำให้อารมณ์ของคนยุ่งเหยิงนั้นเป็นเรื่องที่โหดร้ายและมันจะมีผลกระทบตามมา

- คนที่สงสัยบางคนจะเป็นอาสาสมัครเพียงเพื่อสร้างเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นว่าการ Cold Reading นั้นเป็นความเชื่อที่ผิด ถ้าคุณได้ยินคนพูดอย่างภูมิใจเกี่ยวกับความสงสัยของเขา หรือ คนที่ถูกเลือกที่มีอิทธิพล ซึ่งทระนงตัวมาก ให้เลือกคนอื่น

- นี่ควรใช้เพื่อความสนุกสนาน ไม่ว่าคุณจะเข้าใจมันมากเพียงไร มันเป็นแค่กลเม็ดอย่างหนึ่ง

- ตระหนักถึงผลกระทบต่อบุคคล บางทีการทำการอ่านใจ (Cold Reading) สามารถเป็นประโยชน์ เพราะ มันกระตุ้นให้คนที่ถูกเลือกคิดถึงเหตุการณ์จริงที่อาจจะสร้างปัญหาให้เขาได้ การพูดถึงสิ่งที่เป็นปัญหาเหล่านี้อาจทำให้เขาเข้าใจมันได้ง่ายขึ้นและช่วยเขาหาทางจัดการด้วยตัวเอง ระมัดระวังให้มากในการให้คำแนะนำ การคาดการณ์ข่าวร้าย หรือ การเปิดเผยบาดแผลทางอารมณ์ หลังจากการอ่านใจ (Cold Reading) ให้คนที่ถูกเลือกรู้ว่ามันเป็นเพียงการให้ความบันเทิงและคุณไม่มีความสามารถพิเศษใดๆ

- มีนักอ่านใจ (Cold Reader) มากมายที่ไม่มีศีลธรรมและเป็นผู้มีญาณทิพย์ ในขณะบางพวกแค่ต้องการเงินเล็กๆน้อยๆ บางพวกนั้นอันตราย ผู้นำศาสนาและอาชญากร เป็นต้น ต่างรู้การใช้เทคนิคนี้ในการทำให้เหยื่อพิศวงหลงเชื่อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น